?? เด็กแฝด มีประสาทสัมผัสที่สื่อถึงกัน ??


"จากการศึกษาพบว่าเด็กที่เป็นเด็กแฝดไม่ใช่ว่าจะสื่อสารเฉพาะแต่คู่ของตัวเองเ่ท่านั้น"

เด็กแฝดมี 2 ประเภทคือ แฝดแท้ ซึ่งเกิดจากไข่ 1 ใบผสมกับอสุจิ 1 ตัว และเกิดการแบ่งตัวของเซลล์ไข่ ทำให้เกิดเด็กแฝดที่มีหน้าตาเหมือนกัน และเป็นเพศเดียวกัน ส่วนแฝดเทียม เกิดจากไข่ 2 ใบผสมกับอสุจิ 2 ตัวเด็กที่เกิดมาอาจจะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน และอาจจะไม่ใช่เพศเดียวกัน

มีความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าเด็กแฝดจะมีประสาทสื่อถึงกันในกรณีถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงกับแฝดอีกคนหนึ่ง ซึ่งความเชื่อนี้เป็นความจริงหรือไม่

แพทย์หญิงรัตโนทัย พลับรู้การ กุมารแพทย์สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีอธิบายว่า คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า เด็กแฝดจะมีประสาทสัมผัสที่สามารถสื่อสารถึงกันได้ ซึ่งจะทำให้เด็กไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก และมักจะสื่อสารกันเองระหว่างคู่แฝด จากการศึกษา

พบว่าเด็กที่เป็นเด็กแฝดไม่ใช่ว่าจะสื่อสารเฉพาะแต่คู่ของตัวเองเท่านั้นสาเหตุที่เด็กแฝดส่วนใหญ่พูดช้าเพราะว่าอาจจะเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น เด็กอาจจะคลอดก่อนกำหนด หรือมีความบกพร่องบางอย่างของระบบประสาทหรือสมอง การตอบสนองของเด็กแฝดจากแฝดคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งนั้น บางครั้งเด็กอาจจะเรียนรู้จากความใกล้ชิดไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่ว่าเด็กแฝดมีประสาทสัมผัสสามารถสื่อสารกันได้ หรือเด็กไม่สนใจสิ่งแวดล้อมภายนอก จากการศึกษาต่อมาพบว่าในกรณีถ้าเด็กแฝด 2 คน แยกกันอยู่คนละจังหวัด เช่น ให้แฝดผู้พี่อยู่กรุงเทพฯ และแฝดผู้น้องไปอยู่จังหวัดลพบุรี เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับแฝดน้องที่อยู่ที่จัดหวัดลพบุรี เช่น เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบายอย่างหนัก เป็นต้น แฝดพี่อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็จะรับรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับแฝดน้องโดยเรียกการ รับรู้นี้ว่า extrasensory perception คือมีประสาทรับรู้ดีกว่าที่ควรจะเป็น และได้มีการทดลองโดยนำฝาแฝดมาเลือกไพ่ ปรากฏว่าฝาแฝดสามารถที่จะเลือกไพ่ได้ตรงกันประมาณร้อยละ 50 ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าฝาแฝดอาจจะถูกเลี้ยงดูมาด้วยกัน จึงมีพื้นฐานที่ใกล้เคีงกัน ความชอบตัวเลขก็จะใกล้เคียงกัน


อินกับจัน เป็นเด็กฝาแฝดติดกันคู่แรกของโลกที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 62 ปี และได้รับบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ก แต่ก่อนชาวต่างชาติไม่เคยพบเห็นเด็กฝาแฝดที่มีร่างกายติดกัน พอมาพบเด็กแฝดชาวไทย ชื่ออินกับจัน จึงเรียกเด็กฝาแฝดที่ตัวติดกันว่า Siamese Twin