?? ทุกคนหนีไม่พ้น อีสุกอีใส ??


เรื่องของโรคอีสุกอีใส (chickenpox) นั้น คนส่วนใหญ่มีความเชื่อกันว่าทุกคนต้องป่วยเป็นโรคนี้ หรืออย่างน้อยต้องป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสสักหนึ่งครั้งในชีวิต เรืองนี้เป็นความจริงหรือเป็นเพียงความเชื่อ?

ผศ.น.พ.อนุวัฒน์  กีระสุนทรพงษ์ สาขาวิชาโรคติดเชื้อและอายุรศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลศิริราช อธิบายเกี่ยวกับ โรคอีสุกอีใสว่า เป็นโรคที่เกิดจากเชื่อไวรัสวาริเซลลา (Varicella virus) ทำให้มีอาการเป็นผื่นแดง ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามใบหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง รวมถึงมีไข้  โรคอีสุกอีใสมักระบาดในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อนเช่นเดียวกับหัด แต่ก็สามารถพบได้ประปรายตลอดปี โดยมากจะพบในกลุ่มเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-12 ปี รองลงมาจะเป็นกลุ่มเด็กอายุ 1-4 ปี กลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวตามลำดับ

สำหรับความเข้าใจที่ว่าทุกคนต้องป่วยเป็นโรคนี้นั้นไม่ถูกต้องนัก คือไม่ใช่ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส แต่จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 90 ของคนทั่วไปอาจเป็นโรคอีสุกอีใสสักหนึ่งครั้ง เพราะฉะนั้นหากบอกว่าทุกคนต้องป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสนั้นก็ไม่จริง เพราะมีบางคนที่ไม่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสเลยจนตาย แต่ก็มีเป็นส่วนน้อย

การป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสนั้น ถ้าป่วยตอนเด็กจะดีกว่าเพราะอาการรุนแรงของโรคจะมีน้อย แต่ถ้าป่วยตอนเป็นผู้ใหญ่อาการจะรุนแรงกว่า การรักษาอาการป่วยในเด็กแพทย์จะรักษาตามอาการ คือเมื่อมีไข้ก็ให้ยาลดไข้ และระวังการติดเชื้อที่ผิวหนังเท่า นั้น แต่สำหรับในผู้ที่มีอายุมากโอกาสความรุนแรงของโรคก็จะมีมากขึ้น และโอกาสที่จะมีอาการแทรกซ้อนจากโรคต่างๆ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อก็จะสูงกว่าในเด็ก ดังนั้นถ้ามีอาการเจ็บไข้ไม่สบายแนะนำว่าต้องรีบไปพบแพทย์ และอาจมีความจำเป็นต้องกินยาต้านไวรัสที่ชื่อ 'ไซโคเวีย' เพื่อช่วยลดอาการหรือลดความรุนแรงของโรค


อีสุกอีใสจะไม่เป็นอันตรายกับเด็กทารกในครรภ์ เคยมีรายงานว่าหญิงตั้งครรภ์เป็นอีสุกอีใสและคลอดลูกในช่วงนั้นพอดี ปรากฏว่า ลูกออกมาก็มีผื่นของอีสุกอีใสติดมาด้วย แต่เด็กก็แข็งแรงดี และแผลก็หายไปในที่สุด